ความตายในหลุมฝังศพ
เพจบันทึกฮัก…แปลเรียบเรียง
ฮิกมะฮฺที่มนุษย์ไม่ได้ยินเสียงการลงโทษในหลุมฝังศพ
ชัยคฺ มุฮัมมัด บิน ศอและฮฺ อัลอุษัยมีน –ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ– กล่าวว่า : ชัยคุลอิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ –ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ– ได้กล่าวไว้ว่า :
“แล้วเขาก็ถูกตีด้วยค้อนเหล็กขนาดใหญ่ เขาจึงตะโกนอย่างสุดเสียงจนกระทั่งทุกสิ่งได้ยินเสียงของเขา ยกเว้นมนุษย์“
คำว่า “ยกเว้นมนุษย์” หมายถึง มนุษย์จะไม่ได้ยินเสียงตะโกนกรีดร้อง และนั่นก็เพราะฮิกมะฮฺอันใหญ่หลวงหลายประการด้วยกัน ดังนี้
1. ดั่งที่ท่านนบี ﷺ ได้กล่าวไว้ว่า:
“หากฉันไม่เกรงว่ามนุษย์จะไม่สามารถฝังศพกันได้
ฉันจะวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺให้พวกท่านได้ยินเสียงการทรมานจากการลงโทษในหลุมฝังศพ”
2. เป็นการปกปิดความลับให้แก่ผู้ตาย
3. จะได้ไม่เป็นการสร้างความรำคาญให้แก่ครอบครัวของผู้ตาย เพราะหากคนในครอบครัวได้ยินเสียงของผู้ตายที่กำลังถูกทรมานและกรีดร้อง พวกเขาจะไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
4. เพื่อไม่เป็นการสร้างความอับอายให้แก่ครอบครัวของผู้ตาย เพราะผู้คนจะพูดกันว่า นี่ไง ลูกของคุณ! นั่นก็ลูกของคุณ! และนี่ก็พี่น้องของคุณ! หรือทำนองเดียวกันนี้
5. พวกเราก็คงพินาศนั่นก็เพราะมันคือเสียงตะโกนของคนตาย ไม่ใช่เสียงเบาๆ แต่มันคือเสียงกรีดร้องที่ทำให้หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม แล้วผู้คนก็จะตกใจตายหรือเป็นลมสลบได้
6. หากมนุษย์ได้ยินเสียงโห่ร้องของผู้ที่โดนลงโทษ ก็จะกลายเป็นว่าการศรัทธาต่อการลงโทษในหลุมฝังศพ คือการศรัทธาต่อสิ่งที่มองเห็นสัมผัสได้ ไม่ใช่การศรัทธาต่อสิ่งเร้นลับ และนั่นจะทำเขาให้เขาไม่ได้รับความดีงามจากการทดสอบ เพราะมนุษย์ก็จะศรัทธาต่อสิ่งที่พวกเขามองเห็น แต่หากเป็นสิ่งเร้นลับ และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับรู้ได้ นอกจากที่ปรากฏตามตัวบทหลักฐาน นั่นจึงเป็นการศรัทธาต่อสิ่งเร้นลับ“
ขออัลลอฮฺทรงปกป้องเราให้พ้นจากการลงโทษในหลุมฝังศพด้วยเถิด…อามีน
[ ﺷﺮﺡ ﺍﻟﻌﻘﻴﺪﺓ ﺍﻟﻮﺍﺳﻄﻴﺔ / ( ﺹ 374 ، 375]
อิบนิ อุษัยมีน –ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ–
“ผู้ใดปราถนาอยากเห็นภาพขนาดย่อมของวันกิยามะฮฺ จงไปยังกุโบร(หลุมฝังศพ)”
ณ ที่แห่งนั้นท่านจะได้พบกับ ผู้มีเกียรติอันสูงส่ง และ ผู้ต่ำต้อย , บุรุษ และ สตรี, ผู้เยาว์ และ ผู้อาวุโส , ทุกๆคนเท่าเทียมกัน , ทุกคนถูกกลบอยู่ใต้ดิน แต่ละคนถูกดินทับถมหลายต่อหลายชั้น ณ ที่แห่งนั้นไม่มีผู้ใดมีราชวัง ไม่มีผู้ใดมีคนคอยรับใช้ ไม่มีอะไรติดตัวไปเลย
ด้วยเหตุนี้เองจึงมีคนกล่าวว่า : “ความยุติธรรมแรกของอาคิเราะฮฺคือหลุมฝังศพ”
شرح البلوغ ٦٠٨/٢
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า : ความตายจะถูกนำมาในรูปของแกะที่มีสีขาวปนดำ
และจะมีผู้ประกาศร้องเรียกว่า : โอ้ชาวสวรรค์ ! ชาวสวรรค์ก็จะเงยหน้าขึ้นและมองไปที่แกะตัวนั้น
และผู้ที่นำแกะมาก็จะพูดขึ้นว่า : เจ้ารู้มั้ยว่าสิ่งนี้คืออะไร?
ชาวสวรรค์จะตอบว่า : รู้ครับ มันคือความตาย เพราะพวกเขาเคยเห็นความตายมาก่อนหน้านี้แล้ว
และผู้ที่นำแกะมาก็จะเรียกชาวนรกว่า : โอ้ชาวนรก ! ชาวนรกก็จะเงยหน้าขึ้น และมองไปที่แกะตัวนั้น
และผู้ที่นำแกะมาก็จะพูดขึ้นว่า : เจ้ารู้มั้ยว่าสิ่งนี้คืออะไร?
ชาวนรกจะตอบว่า : รู้ครับ มันคือความตาย เพราะพวกเขาเคยเห็นความตายมาก่อนหน้านี้แล้ว
แล้วแกะตัวนั้นก็ถูกเชือด
หลังจากนั้นเขาก็จะกล่าวว่า : โอ้ชาวสวรรค์จงใช้ชีวิตอยู่ในนั้นตลอดกาล โดยไม่ต้องพบกับความตายอีกแล้ว
โอ้ชาวนรกจงใช้ชีวิตอยู่ในนั้นตลอดกาล โดยไม่ต้องพบกับความตายอีกแล้ว
หลังจากนั้นท่านร่อซู้ล ﷺ จึงอ่านอายะฮฺที่ว่า :
وَأَنذِرْهُمْ يَوْمَ الْحَسْرَةِ إِذْ قُضِيَ الْأَمْرُ وَهُمْ فِي غَفْلَةٍ وَهُمْ لَا يُؤْمِنُونَ
( 39 ) มัรยัม –
“และเจ้าจงเตือนสำทับพวกเขาถึงวันแห่งความเสียใจ เมื่อกิจการนั้นถูกตัดสิน
และพวกเขาอยู่ในความหลงลืม และพวกเขาไม่ศรัทธา“
ท่านอิหม่าม อัลเอาซาอีย์ –ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ–
ได้บอกกับชายคนหนึ่งว่า : “ฉันต้องการบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กับคนที่ไม่นินทาว่าร้าย ไม่อิจฉาริษยา ไม่โกรธเคืองกัน
ชายผู้นั้นจึงพาฉันไปยังหลุมฝังศพ และบอกกับฉันว่า : ที่นี่แหละ!
อิบนิล ก็อยยิม –ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ–
“สภาพของคนๆหนึ่งเมื่ออยู่ในกุโบร ก็เหมือนสภาพของหัวใจที่อยู่ในอก ไม่ว่าจะได้รับความโปรดปรานหรือบทลงโทษ จะถูกคุมขังหรือจะได้รับการปลดปล่อย
หากต้องการทราบว่าสภาพของท่านในหลุมฝังศพเป็นเช่นไร ก็จงดูสภาพของหัวใจที่อยู่ในหัวอกเถิด หากหัวใจดวงนั้นเต็มไปด้วยความเบิกบาน ความสงบ ความสะอาดบริสุทธิ์ นั่นก็คือสภาพของท่านในหลุมฝังศพ –ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ–
ตรงกันข้ามหากหัวใจมิได้เป็นเช่นนั้น สภาพของเขาในกุโบรก็ไม่เป็นเช่นนั้นเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ท่านจะพบว่าผู้ที่กระทำคุณงามความดี ผู้ที่มีจรรยามารยาทที่ดี และมีจิตใจที่ดีงาม ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ที่มีหัวใจสงบนิ่ง นั่นเป็นเพราะการอีหม่านจะขจัดความกังวลใจ ความทุกข์ระทมให้หายไป
และนี่คือสิ่งที่จะทำให้ผู้ที่ให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ชื่นตาชื่นใจ และทำให้ผู้ที่อิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺเกิดความสบายอกสบายใจ
ผู้ใดที่กล่าวตัสเบียะฮฺ (ซุบฮานัลลอฮฺ) เป็นประจำ เรื่องยากจะเป็นเรื่องง่าย
ผู้ใดที่กล่าวสรรเสริญอัลลอฮฺ (อัลฮัมดุลิลละฮฺ) เขาจะได้รับความดีงามอย่างต่อเนื่อง
ٰและผู้ใดกล่าวอิสติฆฟารขอภัยโทษ (อัซตัฆฟิรุลลอฮฺ) อัลลอฮฺจะให้ทางออกในทุกๆปัญหาของเขา“
[الداء والدواء : (١٨٨)
อิบนุ อบิด ดุนยา –ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ–
“จงระวัง ก า ร นิ น ท า ให้ ร้ า ย เถิด เพราะผู้ที่ชอบนินทาให้ร้าย เขาจะโดนลงโทษในหลุมฝังศพอย่างไม่หยุดหย่อน“
อัล–นะมีมะฮฺ ( النميمة) หมายถึง การเอาคำพูดจากคนหนึ่งไปเล่าสู่อีกคนหนึ่ง โดยมีเจตนาเพื่อสร้างความเสียหายและความชั่วร้ายให้เกิดขึ้น
ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ –ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ–
“มีอยู่สองวันกับสองคืน ที่มนุษย์ยังไม่เคยได้ยินเช่นนั้นมาก่อน
คืนที่ท่านตื่นมาพร้อมกับชาวกุโบร โดยที่ท่านยังไม่ได้เตาบัตตัวในคืนก่อนหน้านั้น
และคืนที่เช้าวันรุ่งขึ้นคือวันกิยามะฮฺ วันที่มีผู้แจ้งข่าวจากอัลลอฮฺมาหาท่าน เพื่อแจ้งว่าท่านจะได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก
และวันที่บันทึกของท่านจะถูกยื่นให้แก่ท่าน ซึ่งอาจจะยื่นให้ทางมือขวา หรือมือซ้ายของท่าน“